Apple Inc. บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน ประกาศว่าฟีเจอร์ตรวจจับภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension Detection) สำหรับ Apple Watch จะเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า หลังได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ฟีเจอร์ดังกล่าวถูกเปิดตัวครั้งแรกในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. และจะพร้อมให้บริการใน 150 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงสหรัฐฯ ฮ่องกง และสหภาพยุโรป โดยก่อนหน้านี้แอปเปิลระบุว่า กำลังรอการอนุมัติจาก FDA และหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศต่าง ๆ
ระบบจะใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ (optical heart sensor) ของ Apple Watch เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองของหลอดเลือดต่อการเต้นของหัวใจเป็นระยะเวลา 30 วัน หากตรวจพบสัญญาณของความดันโลหิตสูงเรื้อรัง ผู้ใช้งานจะได้รับการแจ้งเตือนและคำแนะนำให้นำผลลัพธ์ไปปรึกษาแพทย์ ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้จะรองรับ Apple Watch Series 9, Series 10, Series 11, Ultra 2 และ Ultra 3
การอัปเดตดังกล่าว สะท้อนถึงความพยายามของแอปเปิลในการขยายบริการด้านสุขภาพ ท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นจากผู้ผลิตเทคโนโลยีรายอื่น เช่น Garmin, Samsung Electronics และ Oura Health ซึ่งต่างเร่งพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ที่มีความสามารถใกล้เคียงกับอุปกรณ์ทางการแพทย์มากขึ้น โดย Apple เปิดเผยว่า ฟีเจอร์ตรวจจับความดันโลหิตสูง ถูกพัฒนาขึ้นด้วยระบบแมชชีนเลิร์นนิงขั้นสูง โดยใช้ฐานข้อมูลจากการวิจัยหลายโครงการที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 100,000 คน
ด้านองค์การอนามัยโลกระบุว่า ปัจจุบันมีประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกประมาณ 1.3 พันล้านคน ที่ป่วยด้วยภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และโรคไต แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยการดูแลสุขภาพและการรักษาทางการแพทย์
ทั้งนี้ คู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่าง Whoop Inc. ผู้ผลิตสายรัดฟิตเนสแบบไร้หน้าจอ กำลังเผชิญแรงกดดันจาก FDA ให้ปิดการใช้งานฟีเจอร์ตรวจจับความดันโลหิตของอุปกรณ์ Whoop MG ซึ่ง FDA ระบุว่าจัดเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์แต่ยังไม่ได้รับการรับรอง
ที่มา Bloomberg
